วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

บทที่ 2 ข้อมูล สารสนเทศ และการจัดการ

 2.1 ข้อมูลและสารสนเทศ

    1) ข้อมูล

      ข้อมูล(data) หมายถึง ข้อเท้จจริงหรือเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น เช่น บันทึกข้อความ รายงานการประชุม เป็นต้น

   2) สารสนเทศ

    สารสนเทศ (information) หมายถึง ข้อมูลต่างที่ผ่านการประมวลผลแล้ว แม่นยำและตรงกับความต้องการของผู้ใช้ เช่น การห่าค่าเฉลี่ยของอุณหภูมิสูงสุดและต่ำสุดในแต่ละวัน

  3) ลักษณะของข้อมูลที่ดี

    ข้อมูลที่ดีและมีคุณภาพ มีความสมบูรณืในระดับที่เหมาะสมและต้องการของผู้ใช้ โดยข้อมูลที่ดีควรมีลักษณะดังนี้
         -มีความถูกต้องแม่นยำ
         - มีความสมบูรณ์ครบถ้วน
         - ถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นปัจจุบัน
         - ความสอดคล้องของข้อมูล

 4) ชนิดและลักษณะของข้อมูล

   ข้อมุลที่ใช้ในการประมวลผลแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่
      -ข้อมูลที่เป็นตัวเลข (numeric data) คือข้อมูลที่ใช้แทนจำนวนที่สามารถนำไปคำนวณได้ เขียนได้หลายรูปแบบ คือ
                -ข้อมูลที่เป็นตัวเลข คือ ไม่มีจุดทศนิยม เช่น
         1       2      3       4       5     6       7    8      9    0   -1    -2 เป็นต้น
      -เลขทศนิยม คือตัวเลขที่มีจุดทศนิยม ซึ่งอาจมีค่าเป็นจำนวนเต็ม เช่น
          -8.2             64.20           0.82115           110.821564
                     สามารถเขียนได้ 2 รูปแบบ คือ
               ก) แบบที่ใช้ทั่วไป เช่น 7.0, 35.73, 355.158, -41.89  เป็นต้น
               ข) แบบที่ใช้งานทางวิทยาศาสตร์
                - ข้อมูลที่เป็นตัวอักขระ (character data) คือ ข้อมูลที่เป็นตัวอักษรและไม่สามารถนำไปคำนวณได้  แต่นำมาเรียงต่อกันให้มีความหมายได้ เช่น ICT,COMPUTER,Network,internet เป็นต้น
                                        Information and Communication Technology

  5) ประเภทของข้อมูล 

   แบ่งข้อมูลได้ 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่
        - ข้อมูลปฐมภูมิ (primary data) คือข้อมูลที่ได้จากการรวบรวมจากแหล่งข้อมูลโดยตรง จะมีความถูกต้อง ทันสมัย และเป็นปัจจุบ้น เช่น ข้อมูลจากการสมัภาษณ์
        - ข้อมูลทุติยภูมิ (secondary data) คือ ข้อมูลที่มีผู้รวบรวมหรือเรียบเรียงไว้แล้ว ซึ่งสามารถนำมามใช้อ้างอิงได้ เช่น ข้อมูลสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา

  2.2 กระบวนการจัดการสารสนเทศ

          เราสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท

    1) การรวบรวมและตรวจสอบข้อมูล

          -การรวบรวมข้อมูล ซึ่งใช้เทคโนโลยีช่วยในการจัดเก็บข้อมูล เช่น การป้อนข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์
         - การตรวจสอบข้อมูล เมื่อมีการรวบรวมข้อมูลต้องมีการตรวจสอบข้อมูลเพื่อความถูกต้อง ซึ่งหากพบความผิดพลาดก็จะต้องแก้ไขอาจใช้สายตาของมนุษย์หรือใช้คอมพิวเตอร์ช่วยตรวจสอบ

   2) การประมวลผลข้อมูล

         ประกอบด้วยขั้นตอน ดังนี้
              -การจัดกลุ่มข้อมูล  ควรจัดกลุ่มเป็นหมวดหมูที่ชัดเจน เพื่อเตรียมไว้สำหรับในการสำหรับครั้งต่อไป
              -การสรุปผลข้อมูล จัดเรียงข้อมูลที่มีความสำคัญตามลำดับตัวเลขหรือักขระเพื่อสะดวกและประหยัดเวลาในการค้นหาข้อมูล
              -การสรุปผลข้อมูล หลังการจัดเรียงลำดับความสำคัญแล้ว ก็ควรสรุปข้อมูลเหล่านั้นให้กระชับและได้ใจความสำคัญ

   3) การจัดเก็บข้อมูลและดูแลรักษาข้อมูล

          ประกอบด้วยขั้นตอนดังนี้
              -การเก็บรักษาข้อมูล ประมวลผลแล้วมาบันทึกไว้ในสื่อบันทึกข้อมูลต่างๆ เช่น ฮาร์ดดิสก์
              -การทำสำเนาข้อมูล การคัดลอกข้อมูลจากต้นฉบับเพื่อเก็บรักษา หากข้อมูลนั้นเสียหาย ก็สามารถนำข้อมูลที่ทำสำเนาไว้มาใช้ได้ในทันที

  4) การแสดงข้อมูล

         -การสื่อสารและเผยแพร่ข้อมูล ข้อมูลข่าวสาร ผู้ใช้งานก็สามารถนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์
         -การปรับปรุงข้อมูล หลังจากที่ได้เผยแพร่ข้อมูลไปแล้ว ก็ควรมีการติดตามผลตอบกลับ เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ทันสมัยอยูาตลอดเวลา

    2.3)ข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์

     1)ระบบเลขฐานสอง 

       เนื่้องจากคอมพิวเตอร์ทำงานด้วยสัญญาณไฟฟ้าแทนตัวเลขศูนย์ (0) และหนึ่ง (1) โดยจะเรียกว่า บิด และเมื่อนำตัวเลขหลลายๆบิดมาเรียงต่อกัน (8 บิด เท่ากับ 1 ไบต์) จะใช้สร้างรหัสแทนจำนวน สัญลักษณ์ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้
 

     2) รหัสแทนข้อมูล

          -รหัสแอสกี เป็นรหัสแทนข้อมูลด้วยเลขฐานสองจำนวน 8 บิด หรือเท่ากับ 1 ไบต์ ซึ่งหมายความว่าการแทนอักขระแต่ละตัวจะประกอบด้วยเลขฐานสอง 8 บิดเรียงกัน
          
         -รหัสยูนิโค้ด เป็นรหัสแทนข้อมูลด้วยเลขฐานจำนวน 18 บิด เนื่องจากตัวอักษรบางประเภทเป็นตัวอักษรแบบรูปภาพ ด้วยเหตุนี้จึงได้สร้างรหัสใหม่ขึ้นมาแทน โดนแทนตัวอักขระได้ 65,536 ตัว และยังใช้แทนสัญลักษณ์กราฟิกสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ได้อีกด้วย 

    3) การจัดการจ้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ 

         -บิด (bit) คือตัวเลขหลักใดหลักหนึ่งในระบบเลขฐานสอง (0 กับ 1) ซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของข้อมูล
        -ตัวอักขระ (character) คือ ตัวเลข ตัวอักษร หรือเครื่องหมายใดๆ แต่ละตัวจะต้องใช้เลขฐานสองจำนวน 8 บิด หรือ 1 ไบต์ ในการแทนข้อมูล
        -เขตข้อมูล (field) คือ ข้อมูลที่เป็นตัวอักขระเรียงต่อกัน
        -ระเบียนข้อมูล (record) คือ กลุ่มของเขตข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องกัน ตั้งแต่ 1 เขต ข้อมูลขึ้นไป
        -แฟ้มข้อมูล (file) คือ กลุ่มของระเบียนข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กัน ตั้งแต่หนึ่งระเบียนขึ้นไป
        -ฐานข้อมูล (database) คือ เป็นทีรวบรวมแฟ้บข้อมูลหลายๆ แฟ้มเข้าด้วยกัน จะต้องมีความสัมพันธ์กันโดยใช้เขตข้อมูลที่เหมือนกันเป็นตัวเชื่อมระหว่างกัน

เขตข้อมูล


แฟ้มข้อมูล



ฐานข้อมูล

            คำถาม
    1. สุณิสา มีกี่บิด(bit) ?




                                

    

   
  
         
         


วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556

บทที่ 1 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

1.1 ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

                เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารประกอบด้วยสามคำ คือ "เทคโนโลยี" "สารสนเทศ" และ "การสื่อสาร" ซึ่งมีความหมายดังนี้
       เทคโนโลยี (technology) การนำความรู้หรือวิทยาการทางด้านวิทยาศาสตร์ มาประยุกต์ในการพัฒนาเครื่องมือ เครื่องจักร วัสดุ หรือแม้กระทั่งสิ่งที่ไม่สามารถจับต้องได้ เช่น กระบวนการต่างๆ
       สารสนเทศ (information) ข้อมูล ข้อเท็จจริง ความคิดเห็น หรือประสบการณ์ต่างที่ผ่าานการประมวลผลอย่างมีระบบ
       การสื่อสาร (communication) การส่งข้อมูลข่าวสารโดยใช้อาศัยสื่อเป็นตัวกลางจากบุคคลหนึ่งหรือสถานที่หนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่งหรืออีกสถานที่หนึ่ง

  เทคโนโลยีสารสนเทศ

       เทคโลยีสารสนเทศ (Information Technology :IT) มาจากคำว่า "เทคโนโลยี" กับ "สารสนเทศ" เชื่อมต่อกัน ซึ่งหมายถึงการนำความรู้หรือวิทยาการทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ทางด้านเทคโลยีคอมพิวเตอร์    

  เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

      เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Teachnology : ICT)
เมื่อนำค่าเหล่านี้มาเชื่อมต่อกันจะมีความหมายคือ การนำเทคโลยีคอมพิวเตอร์มาใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีการสื่อสารและโทรคมนาคม เพื่อผลิต เผยแพร่ และจัดเก็บสื่อสารสนเทศในรูปแบบต่างๆ เช่น ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว

   1.2 ระบบสารสนเทศ

      ระบบสารสนเทศ (Information system) เป็นระบบในการรวบรวม จัดเก็บ และจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบ มี 5 ส่วนสำคัญ
   

   1) ฮาร์ดแวร์

     ฮาร์ดแวร์  (hardware) เป็นเครื่องมือใช้ในการจัดการกับสารสนเทศทั้งเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์พ่วงต่างๆซึ่งนับว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญ เช่น จอภาพ (monitor) คีย์บอร์ด (keyboard) เมาส์ (mouse) เป็นต้น


 2) ซอฟแวร์ประยุกต์

       ซอฟแวร์ประยุุกต์ (application software) เป็นชุดคำสั่งที่เขียนขึ้นเพื่อประยุกต์ให้กับงานตามความต้องการของผู้ใช้แต่ละคน ตัวอย่างซอฟแวร์ประยุกต์ เช่น ซอฟแวร์ประมวลคำ ซอฟแวร์ตกแต่งภาพ เป็นต้น

 3) ข้อมูล

      ข้อมูล (data) ข้อมูลที่ดีจะต้องมีความสมบูรณ์ถูกต้อง แม่นยำ และเชื่อถือได้ โดยจะะถูกรวบรวมป้อนเข้าสู่คอมพิวเตอร์ด้วยอุปกรณ์การรับข้อมูลต่างๆ เช่น เมาส์ คีย์บอร์ด ไมโครโฟน เป็นต้น

  4) บุคลากร

     บุคลากร (people) จะต้องมีความรู้ความสามารถและความเข้าในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศให้เกิดประโยชน์โดยแบ่งออกเป็นผู้พัฒนาและผู้ใช้ระบบสารสนเทศ (user)

5) ขั้นตอนการปฎิบัติงาน

     ขั้นตอนการปฎิบัติงาน (procedure) ผู้ใช้งานจะต้องปฎิบัติตามระเบียบตามคู่มือการปฎิบัติงาน อย่างเคร่งครัด เพื่อนให้ได้งานที่มีประสิทธิภาพ เช่น ขั้นตอนการปฎิบัติงานต่างๆ

           ส่วนประกอบทั้งห้านี้ล้วนสำคัญถ้าขาดส่วนประกอบใดส่วนประกอบหนึ่งไม่สมบูรณ์ก็อาจทำให้ระบบสารสนเทศนั้นไม่สมบูรณ์ได้ 

1.3) ประโยชน์ของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

     การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารให้เกิดประโยชน์ด้านต่างๆดังนี้

1) ด้านการศึกษา 

      ใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารงานการศึกษาเพื่อเก็บข้อมูลต่างๆ เช่น ระบบการจัดตารางการ
เรียนการสอน เป็นต้น 

2) ด้านการจัดเก็บรวบรวมข้อมูล

ข้อมูลจำนวนมากจะถูกรวบรวมและบันทึกไว้ในรูปของสื่อบันทึกข้อมูลประเภทต่างๆ เช่น ฮาร์ดิสก์ แผ่นซีดีรอม และแผ่นดีวีดีรอม เป็นต้น 


      

 3) ด้านการสื่อสารและโทรคมนาคม 

การสื่อสารแบบไร้สายเข้ามีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตของผู้คนในสังคมอย่างรวดเร็วและสะดวก
ต่อการใช้งาน เช่น อินเทอร์เน็ต การใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อสื่อสารระหว่างกัน เป็นต้น 

  4) ด้านการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 

      การวิจัยการทอลองทางด้านวิทยาศาสตร์ล้วนแต่ต้องใช้เทคโนโลยีและการสื่อสารทั้งสิ้น เช่น
การวิจัยด้านนิวเคลียร์ฟิสิกส์

5) ด้านความบันเทิง

รูปแบบการนำเสนอที่ตอบสนองความต้องการของทั้งภาพและเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพประกอบ
กับการเข้าถึงข้อมูลสารสนเทศต่างที่สะดวกและเร็วจึงได้รับความนิยม เช่น การชมโทรทัศน์ผ่านเน็ต 
การชมภาพยนตร์ เป็นต้น

 นอกจากประโยชน์ของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่กล่าวมานั้น ยังมีประโยชน์ด้านอื่นมากมาย เช่น ด้านสิ่งพิมพ์ ด้านการเงินธนาคาร ด้านการแพทย์และสาธรณสุข ด้านความมั่นคง ด้านอุตสาหกรรม เป็นต้น

1.4) แนวโน้มการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

                  : เทคโนโลยีไร้สานทำให้การติดต่อสื่อสารสะดวกและรวดเร็ว
                  : มีการใช้ระบบที่เสมือนจริงผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น
                  : อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจะมีขนาดกะทัดรัดและราคาถูก แต่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและมีการใช้งานที่หลากหลาย
                  : การวางแผน การคิดวิเคราะห์ และการตัดสินใจของมนุษย์
                  : ด้วยการเข้าถึงข้อมูล ที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว ทำให้มีช่องทางการดำเนินธุรกิจและกิจกรรมต่างๆเพิ่มขึ้น
                 : หน่วยงานหรือองค์กรจะมีขนาดเล็กลง แต่จะปรับเปลี่ยนเป็นลักษณะของการเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายระหว่างหน่วยงานย่อยๆเพิ่มากขึ้น



1.5) ผลกระทบจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

                 : มีพฤติกรรมเสี่ยงในการลอกเลียนแบบจากเกมที่รุนแรง
                 : การใช้ชีวิตเปลี่ยนไปพบปะผู้คนน้อยลง ส่งผลทำให้สัมพันธภาพลดน้อยลง
                 : การเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย สะดวก เร็ว ทำให้เกิดช่องทางการโจรกรรมเพิ่มมากขึ้น
                 :ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้การผลิตของผิดกฎหมายและละเมิดลิขสิทธ์มากขึ้น เช่นซีดีเพลงต่างๆ เป็นต้น
                 : การส่งต่อข้อมูลผ่านสื่อต่างๆแ เช่น เฟซบุ๊ก ถ้าผู้ส่งไม่ระมัดระวังอาจเป็นการละเมิดลิขสิทธ์ส่วนบุคคลได้
                  :เมื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพิ่มขึ้น สิ่งที่ตามมาก็คือขยะอิเล็กทรอนิกส์

             
             


                   







1.6) อาชีพที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

           : นักเขียนโปรแกรมหรือโปรแกรมเมอร์
           : นักวิเคราะห์ระบบ
           : ผู้ดูแลและบริหารฐานข้อมูล
           : ผู้ดูและและบริหารเครือข่าย
           :ผู้พัฒนาและบริหารระบบเว็บไซต์
           : เจ้าหน้าที่เทคนิค
           
          


                 นอกจากนี้ยังมีอาชีพที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอีกมากมาย เช่น นักเขียนเกม นักประชมสัมพันธ์ นักพัฒนาเครื่องมือ เป็นต้น

       คำถามท้ายบท
          1) ถ้าสนใจอาชีพที่เกี่ยวกับข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทสและการสื่อสารต้องจบจากคณะจากคณะอะไร?

วันพุธที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2556


ประวัติส่วนตัว

นางสาว   สุณิสา   ขันธลักษณ์
ชื่อเล่น  โซไรดา
ชั้น ม.4/4  เลขที่ 10
โรงเรียนจอมสุรางค์อุปถัมภ์
วันเกิด  15  ธันวาคม พ.ศ. 2540
เบอร์ติดต่อ  0882356995
facebook: Soraisa  khantaluk
Twitter: soraidaza
IG:Soraidamalik
Line: celebda
ที่อยู่ 38 หมู่ 14 ต.ปากกราน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา